มหากาพย์ Advantage+

ตื่นเต้นมากเลยครับ! ที่จะได้แชร์เรื่องนี้ Meta ได้คิดค้น Advantage+ campaigns ขึ้นมาเมื่อปี 2022 เพื่อสร้างโซลูชั่นที่ดีขึ้น ให้กับผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ ไม่ค่อยชำนาญ Facebook ads มากนัก และไม่อยากเสียเวลาศึกษาด้วยครับ 

นี่เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับหลายๆคน ที่คิดว่าตัวเองเข้าใจการทำงานของ Facebook ads และพยายาม “เอาชนะอัลกอริธึม” อธิบายง่ายๆก็คือ ชุดเครื่องมือ Advantage+ ของ Meta นั้น อยู่บนพื้นฐานของการปล่อยให้อัลกอริธึมทำงานของมันไปเลย ส่วนเรา โฟกัสไปที่สิ่งที่สำคัญกว่า นั่นคือ Offer Positioning และ Sale funnel ครับ คุณอาจรู้แล้วว่ามี 4 เรื่องสำคัญที่ทำให้แคมเปญโฆษณาของคุณฉายแสง นั่นคือ Product/Service

  • Positioning
  • Audience Definition
  • Offer & Messaging
  • Funnel 

ตามหลักการของ Digital Advertising แล้วผมกับทีมเอา Advantage+ ไปใช้ยังไง บ้างล่ะ มาดูกันเลย เราใช้ Advantage+ สำหรับงบประมาณ ของแคมเปญครับ

แน่นอนครับ! ผมชอบหยิบ CBO (campaign budget optimization) มาใช้อยู่แล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ผมจะใช้ A+ CBO ซึ่งจริงๆ แล้วมัน ก็คือสิ่งเดียวกันนั่นแหละ แค่เปลี่ยน ชื่อใหม่ให้ฟังดูเท่ๆ ขึ้นเท่านั้นเอง! 

คุณจะเจอตัวเลือกนี้ในระดับแคมเปญ มันจะช่วยให้คุณปล่อยให้อัลกอริธึม เป็นคนตัดสินใจว่าจะใช้งบไปกับ ad set ไหนดี

ส่วนตัวผมเองก็ใช้การตั้งงบที่ระดับ ad set (เรียกว่า ABO) สำหรับช่วงการทดสอบ และใช้การตั้งงบที่ระดับแคมเปญ (CBO) เมื่อผมปรับ targeting, โฆษณา และ funnel จนดีแล้ว ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอตาม KPI 

เห็นมั้ยล่ะครับว่าง่ายแค่ไหน? ใครว่า เรื่องโฆษณามันต้องยุ่งยากเสมอไป บางทีแค่ปล่อยให้อัลกอริธึม ช่วยทำงานหนักให้เรา เราก็มีเวลา ไปโฟกัสกับสิ่งอื่นๆ ที่สำคัญกว่าได้แล้ว

แต่ถ้ายังงงๆ อยู่ก็ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ถามมาได้เลยที่ >>LINE : @convclub

ผม และทีม พร้อมไขข้อข้องใจให้ทุกเรื่อง!


Advantage+ Audiences เป็นชื่อเก๋ๆของ ‘เช็คถูกช่องนี้ เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมาย ไปยังคนที่เราคิดว่าน่าจะเพิ่มผลลัพธ์’ 

ซึ่งมันมีมาหลายปีแล้วจริงๆ ผมเคยลองใช้เมื่อหลายปีก่อน แต่มันไม่ค่อย น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ แถมที่สำคัญคือเขา ไม่ได้บอกรายละเอียดด้วยว่าขยาย ไปยังกลุ่มเป้าหมายไหนบ้าง 

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังเล็ง Interest นึงอยู่ พอเช็คถูกช่องนั้น มันจะเชื่อมโยง ไปยัง Interest อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเบื้องหลัง โดยที่เราไม่รู้ตัว 

ปัญหาคือ เราไม่รู้ว่า conversion ที่เข้ามา นั้นมาจาก Interest ที่เราเลือก หรือพวกที่ Facebook เพิ่มเข้ามากันแน่ สำหรับมือใหม่นี่ไม่ใช่ปัญหาหรอก ตราบใดที่มันขายได้ จะไปสนใจทำไม? 

แต่เวลาจะสเกล คุณต้องรู้แหละว่า Interest อันไหนกับโฆษณาอันไหนจับคู่กันแล้ว สร้าง conversion ได้มากขึ้น นี่แหละคือ 


การหาคู่ audience กับโฆษณาที่ใช่ และใช้งานด้วยกันได้ 

เวลาสร้าง ad set แบบ BROAD (เล็งเป้าแค่เพศ/อายุ/พื้นที่) ผมจะไม่เปิดตัวเลือกนี้นะ 

เพราะผมต้องการให้มันกว้างที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ตัวเลือกนี้จะทำให้ การเล็งเป้าของคุณแคบลงไปอีก 

ลองคิดดูนะครับ! Meta พยายามโน้มน้าว ให้คุณเชื่อว่ามันจะทำงานได้ดีแค่ไหน แต่อย่าไปเชื่อโดยไม่ลอง Test ดูก่อนล่ะ สำหรับผมแล้วมันไม่ได้ให้ผลลัพธ์ ที่ดีกว่าเลยสำหรับการเล็งเป้าแบบ BROAD 

วิธีนี้ก็ใช้ได้กับ Custom Audiences และ Lookalike Audiences ด้วยนะครับ แต่โดยทั่วไปแล้วผมก็ไม่ค่อยใช้ กับกลุ่มเป้าหมายพวกนี้เท่าไร

เมื่อไม่นานมานี้ เราเพิ่งลองรันโฆษณา Digital Product ของผม ผมอยากเล็งเป้า ไปที่คนที่มี Interest เกี่ยวกับเอเจนซี่โฆษณา, การโฆษณา หรือ Ecommerce 

แต่เนื่องจากมันมีระยะเวลาจำกัด และผม ไม่จำเป็นต้องขยายผลขนาดนั้น ผมเลย ไม่ค่อยสนใจว่าอัลกอริธึมของ Facebook จะทำยังไง และมันก็ทำได้โอเคเลยล่ะ

พูดง่ายๆ คือเราบอก Facebook ว่าไปหา คนที่มี Interest พวกนี้หน่อย แล้วก็อันไหนอีก ที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องตามโฆษณา ตาม funnel และ optimization event ของผม 

ผมใส่ทุกเพศและ 20+ เพราะตอนนี้ผม อยากจะลดการจำกัดสำหรับ ‘COLD’ audience ที่อยู่บนสุดของ funnel ให้น้อยที่สุด และปล่อย ให้อัลกอริธึมทำหน้าที่ของมัน 

ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการขายได้ 36 ครั้งด้วย ROAS 2.7 เท่า และสร้างยอดขายที่การ Re-Engage และ Re-Targeting ที่ 5.87 และ 7.37 ตามลำดับ

ซึ่งมากพอแล้ว กับการทำกำไรใน Product นี้

เป็นอีกเคสที่แสดงให้เห็นว่าการรู้จักปล่อยให้ AI ช่วยนำทางบ้าง บางครั้งก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องเสียเวลาไปโฟกัสผิดจุด ให้ปวดหัว ขอแค่เรารู้ว่าจะใช้มันเวลาไหน ยังไง ก็เอาอยู่แล้ว!


มีบางลูกค้าที่สร้างยอดขายอย่างดีกับ ASC เลยล่ะครับ แต่ข้อเสียใหญ่ๆ ก็คือ ASC รวมกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดไว้ในหนึ่ง ad set เดียว ทั้ง COLD, WARM, HOT และ EXISTING CUSTOMERS

นี่คือปัญหาครับ เพราะปกติแล้วเราจะ แยก funnel เป็นขั้นๆ เพื่อปรับข้อความ โฆษณา และแม้กระทั่งงบประมาณ ให้เหมาะ กับแต่ละกลุ่ม

แต่พอใช้ ASC เราทำแบบนั้นไม่ได้ มันไม่เหมือนการทำ retargeting แบบปกติที่เราใช้เพื่อทำให้ลูกค้าเดิม กลับมาซื้ออีก

ดังนั้นตอนเซ็ต ASC เราเลยต้องระวัง อย่าเอาแต่ดูตัวเลขยอดขายรวมอย่างเดียว ต้องแยกกลับมาดูด้วยว่ามาจาก COLD audience หรือลูกค้าเก่ากันแน่

จะได้รู้ว่า ASC ช่วยเราเพิ่ม COLD conversion ได้จริง หรือแค่ทำให้ลูกค้า เดิมกลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งเราควรจะทำได้ อยู่แล้วหากเซ็ต retargeting แบบเดิมเอง

ไม่งั้นเราอาจจะเข้าใจผิดคิดว่า ASC เจ๋งมาก แต่ที่จริงความสำเร็จส่วนใหญ่กลับมาจาก ลูกค้าเดิมที่ซื้อง่ายอยู่แล้ว การตีความข้อมูล แบบนี้อาจทำให้เราเสียโอกาสในการปรับปรุง กลยุทธ์ไปเลยก็ได้

วิธีแก้ไขก็คือรัน ad set แยกต่างหากสำหรับ retargeting ด้วยรีวิวจากลูกค้า หรืออะไร ทำนองนั้นไปพร้อมๆ กัน

แต่เนื่องจากหนึ่ง ad set จะเล็งเป้าหมาย ทุกชั้นของ funnel พอรวมกันหมดแล้ว ทุกกลุ่มก็จะเห็นโฆษณาทุกชุด ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็น พวกโฆษณาชุด COLD/TOF นี่แหละครับ

หน้าตาตล้ายโครงสร้างแคมเปญที่มี หลายๆ โฆษณา แต่ไม่มี ad set แบบ ที่เราเห็นใน Tailored made Campaign นั่นเอง

สิ่งที่เราเลือกไม่ใช้ Advantage+ ขอพูดแบบตรงๆ เลยนะครับ:


โดยเฉพาะตอนทดสอบและแคมเปญ บางอันที่เตรียมสเกล เหตุผลคือ Facebook จะวางโฆษณาของคุณไปทุกที่ที่ทำได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

เพราะบางครั้งตำแหน่งโฆษณาก็ไม่ค่อยดี เช่น อาจใช้งบไปกับพวกคอลัมน์ด้านขวา มากเกินไป และเพราะตำแหน่งจัดวางเพิ่มขึ้น คุณเลยต้องใช้เวลากับการจัดรูปแบบโฆษณา มากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะปรากฏใน รูปแบบที่ถูกต้องเหมาะสม

บางอย่างอาจดูน่าใช้ แต่ลองคิดให้ลึกแล้วมันอาจกลายเป็นปัญหา ซะอย่างนั้น ต้องระวังไว้เสมอ อย่าไว้ใจมันเต็มร้อยล่ะ

ผมว่าสุดท้ายแล้ว การทำโฆษณาที่ดี ก็ยังต้องอาศัยความเข้าใจลึกซึ้ง และการควบคุมของเราเป็นหลักนะครับ ใช้ AI เป็นตัวช่วยได้ แต่อย่าลืมว่า ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ และสินค้า เราต่างหากที่รู้ดีที่สุดว่าลูกค้าต้องการอะไร ไม่ใช่ algorithm หรอก

ใครมีเทคนิคเด็ดๆ ในการจัดการกับ Advantage+ Ad Optimizations บ้าง มาแชร์กันหน่อยสิครับ ช่วยกันคนละไม้ คนละมือ รับรองว่าชาว Ads มือใหม่ จะต้องประทับใจแน่ๆ เลย!

#ส่งท้าย ถ้าหากคุณคิดว่าโพสต์แบบนี้ เป็นประโยชน์ก็ช่วยกันแชร์ออกไป เพื่อที่ผมจะได้มีกำลังใจ ทำเนื้อหาอัพเดท ออกมาใหม่

และถ้าคุณสนใจอยากได้รับคำปรึกษาเพิ่ม เกี่ยวกับธุรกิจของคุณในมุมของ Facbook Ads อย่าลังเลที่จะทักเข้ามาที่ LINE : @convclub

ผม และทีมงานยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ จะตอบคำถาม และให้คำแนะนำอย่าง ตรงไปตรงมา

ท้ายที่สุดหวังว่าทุกคนจะได้ลองนำชุดความรู้นี้ ไปปรับใช้กับธุรกิจ และสร้างผลลัพธ์ดั่งใจครับ #ConversionClub

*P.S. หลักการทั้งหมดที่นำมาแชร์เป็นสิ่งที่ได้รับ การถ่ายทอดมาจาก Mentor ด้าน Facebook Ads ที่เปิด Agency ใน EU ร่วมกันกับการนำมาทำจริงในประเทศไทย และปรับให้เข้ากับบริบทไทย